Last updated: 16 ธ.ค. 2568 | 19 จำนวนผู้เข้าชม |
การตรวจสอบและปรับเทียบ Mini Prism ก่อนใช้งานจริง
Mini Prism (มินิปริซึม) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้คู่กับกล้อง Total Station ในงานสำรวจทางวิศวกรรมและการก่อสร้าง การละเลยการตรวจสอบและปรับเทียบก่อนใช้งานจริง อาจนำไปสู่ความคลาดเคลื่อนในการวัดระยะทาง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความถูกต้องของโครงการ ดังนั้น การปฏิบัติตามขั้นตอนการดูแลและปรับเทียบอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
1. การตรวจสอบสภาพทางกายภาพ (Inspection)
ก่อนนำ Mini Prism ออกไปใช้งานภาคสนาม ควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบสภาพภายนอกอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดกีดขวางเส้นทางการสะท้อนแสงเลเซอร์:
2. การปรับเทียบค่าคงที่ปริซึม (Prism Constant / Offset)
ค่าคงที่ปริซึมคือค่าชดเชยระยะทางที่กล้อง Total Station ต้องใช้เพื่อคำนวณระยะทางจากจุดที่ลำแสงเลเซอร์ตกกระทบไปยังจุดศูนย์กลางทางกายภาพของปริซึม การตั้งค่าผิดพลาดเพียงเล็กน้อยจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการวัดระยะทางทุกครั้งที่ทำการสำรวจ
Mini Prism รุ่น/ผู้ผลิต ค่าคงที่ที่พบบ่อย (ตัวอย่าง)
รุ่นมาตรฐานทั่วไป 0 มม. หรือ -30 มม.
ขั้นตอนการตั้งค่า:
3. การปรับเทียบฟองน้ำของเสาปริซึม (Pole Bubble Level)
ฟองน้ำบนเสาปริซึมเป็นตัวกำหนดว่าเสาตั้งได้ แนวดิ่ง (Plumb) อย่างแท้จริงหรือไม่ หากฟองน้ำไม่ได้รับการปรับเทียบอย่างถูกต้อง ตำแหน่งที่วัดได้จะมีความคลาดเคลื่อนในแนวราบ
วิธีตรวจสอบและปรับแก้:
4. ทดสอบซ้ำ : ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-3 จนกว่าฟองน้ำจะอยู่ตรงกลางเสมอ ไม่ว่าจะหมุนเสาไปในทิศทางใด
4. การทดสอบความแม่นยำภาคสนาม (Field Check)
แม้จะปรับเทียบทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว การยืนยันความแม่นยำด้วยการทดสอบภาคสนามเป็นสิ่งสำคัญ
การตรวจสอบความสะอาด ความเสียหายทางกายภาพ การตั้งค่าค่าคงที่ปริซึมที่ถูกต้อง และการปรับเทียบฟองน้ำของเสาปริซึม เป็นวงจรการปฏิบัติที่จำเป็นก่อนการใช้งาน Mini Prism ทุกครั้ง การใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยเหล่านี้ คือการประกันความแม่นยำของข้อมูลสำรวจ และความสำเร็จของโครงการในที่สุด