วิธีเลือกปริซึมโพล และฐานปริซึมให้เหมาะกับลักษณะงานภาคสนาม

วิธีเลือกปริซึมโพล และฐานปริซึมให้เหมาะกับลักษณะงานภาคสนาม

     การเลือกเสาปริซึม (Prism Pole) และฐานปริซึม (Prism Holder/Base) ให้เหมาะสมกับงานภาคสนามเป็นส่วนสำคัญมากในการเพิ่มความแม่นยำ ลดความคลาดเคลื่อน และเพิ่มความคล่องตัวของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานกับกล้อง Total Station ที่ต้องการค่าการสะท้อนที่นิ่งและตำแหน่งทางดิ่งที่ถูกต้อง

  เลือกจากประเภทของงานภาคสนาม

  งานก่อสร้างทั่วไป

• ใช้เสาปริซึมแบบ ปรับระดับได้ หรือ Telescopic Pole
  
• ความสูง 1.3–2.5 เมตร
  
• ใช้ฐานปริซึมแบบมาตรฐาน (Standard Prism Holder)

   เหตุผล : งานก่อสร้างต้องการความคล่องตัว ไม่จำเป็นต้องใช้เสาที่แม่นยำสูงมาก แต่ต้องแข็งแรงและตั้งฉากง่าย

  งานสำรวจควบคุมระดับความละเอียดสูง (Control Survey / Traversing)

• ใช้เสาปริซึมแบบ คาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber)
  
• มี ระดับน้ำ 2 จุด (กลม + ทรงกระบอก) เพื่อความแม่นยำ
  
• ใช้ฐานปริซึมแบบ Precise Holder ลดการเอียง

   เหตุผล : คาร์บอนไฟเบอร์เบา แข็งแรง ไม่เกิดการยืดตัว (Low Thermal Expansion) เหมาะกับงานละเอียดสูง

  งานสำรวจบนพื้นที่ขรุขระ / ป่า / ภูเขา

• ใช้เสาปริซึมแบบ Heavy-duty
  
• โครงสร้างแข็งแรง รับแรงลมได้ดี
  
• ใช้ฐานปริซึมที่มี ระบบล็อกแน่น

   เหตุผล : พื้นที่ไม่เรียบ ทำให้เสามีโอกาสล้มง่าย ต้องการเสาที่มั่นคงและฐานที่ยึดปริซึมได้ดี

  งานสำรวจระยะไกล (Long Range)

• ใช้เสาปริซึมคาร์บอนหรืออะลูมิเนียมเกรดสูง
  
• ใช้ฐานปริซึมแบบเคลือบเงิน (Silver-Coated Prism Base)

   เหตุผล : ปริซึมเคลือบเงินสะท้อนแสงได้ดีกว่า เหมาะกับงานระยะไกลกว่า 800–1000 เมตรขึ้นไป

  งานสำรวจบนถนน/พื้นที่เสี่ยงอันตราย

• เลือกเสาปริซึมที่มี สีสะท้อนแสง (Reflective marking)
  
• ฐานปริซึมควรเป็นแบบ Quick release เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์ได้เร็ว
  

ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด