เลือกกล้องระดับ (Automatic Level) อย่างไรให้ตรงกับงาน

 เลือกกล้องระดับ (Automatic Level) อย่างไรให้ตรงกับงาน

     กล้องระดับ (Automatic Level) เป็นเครื่องมือสำรวจที่ใช้ในการวัด “ความต่างระดับ” หรือ “ความสูง” ของจุดต่าง ๆ บนพื้นดิน แต่ในท้องตลาดมีกล้องระดับหลายชนิด ทั้ง แบบอัตโนมัติ, ดิจิทัล, หรือเลเซอร์ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อหรือเลือกใช้ ควรเข้าใจลักษณะงานและความแม่นยำที่ต้องการ

  1. พิจารณาประเภทของงานที่ทำ

  2. ตรวจสอบค่าความแม่นยำ (Accuracy) 

     กล้องระดับแต่ละรุ่นจะระบุ “ค่าความแม่นยำต่อระยะทาง 1 กม.”  เช่น

• ±1.0 มม./กม. → ความละเอียดสูง เหมาะกับงานวิศวกรรม
  
• ±2.5 มม./กม. → งานก่อสร้างทั่วไป
  
• ±4.0 มม./กม. → งานปรับพื้นที่เบื้องต้น

      เคล็ดลับ: ถ้างานต้องตรวจระดับบ่อยหรือวัดระยะทางไกลกว่า 50 ม. ควรเลือกกล้องที่มีค่าความแม่นยำ ≤ ±2.0 มม./กม.

  3. พิจารณาระยะการมองเห็น (Telescope Magnification)

• กล้องทั่วไปจะขยายได้ 20x – 32x
  
• งานละเอียด เช่น อาคารสูง, เขื่อน → ใช้ 28x ขึ้นไป
  
• งานทั่วไป เช่น ถมดิน → ใช้ 24x ก็เพียงพอ

  4. ระบบชดเชยอัตโนมัติ (Automatic Compensator)

• เป็นระบบที่ช่วยให้เส้นเล็งอยู่ในแนวระดับโดยอัตโนมัติ
  
• กล้องคุณภาพสูงจะมี “ระบบชดเชยแม่เหล็ก (Magnetic Damping)” ที่เสถียรกว่าระบบสปริง

      แนะนำ: เลือกกล้องที่มี Compensator 4 สาย หรือมากกว่า

  5. ความทนทานและมาตรฐานกันน้ำ (Durability)

• งานภาคสนามควรเลือกกล้องที่มีมาตรฐาน IP54 – IP66 (กันฝุ่น กันน้ำ)
  
• ตัวกล้องควรเป็นอลูมิเนียมหรือโลหะผสม ไม่ใช่พลาสติก
  

  6. การบริการหลังการขาย

• ตรวจสอบว่ามี ศูนย์สอบเทียบ (Calibration Center) ในประเทศ
  
• มีอะไหล่สำรองและบริการซ่อม
  
• มีใบรับรองมาตรฐาน (Certificate of Calibration)