Last updated: 15 ต.ค. 2568 | 9 จำนวนผู้เข้าชม |
การวัดระยะทางด้วยเทปวัดระยะ (Surveying Tape) เป็นวิธีการพื้นฐานที่ยังคงมีความสำคัญในงานสำรวจทุกประเภท ความแม่นยำของผลการวัดขึ้นอยู่กับการเลือกใช้วัสดุและประเภทของเทปที่เหมาะสมกับความละเอียดของงานนั้น ๆ บทความนี้สรุปหลักเกณฑ์การพิจารณาเลือกเทปวัดระยะอย่างเป็นระบบ เพื่อควบคุมคุณภาพข้อมูลภาคสนาม วัสดุของเทปวัดระยะเป็นปัจจัยหลักด้านความเสถียรและความจำเป็นในการแก้ไขค่าจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ (Temperature Correction) ชั้นความแม่นยำของเทปวัดระยะมักกำหนดตามมาตรฐานสากล (เช่นยุโรป) เป็น Class I, II, III เพื่อบอกความคลาดสูงสุดที่ยอมรับได้: * ตรวจฉลาก/ใบรับรอง: ระบุคลาส อุณหภูมิอ้างอิง (มัก 20 °C) และแรงดึงมาตรฐาน (เช่น 50 N หรือ 100 N) เลือกความยาวให้เหมาะจะช่วยลดความผิดพลาดจากการหย่อน (Sag) และทำให้ทำงานคล่องตัวขึ้นแนวทางการเลือกใช้เทปวัดระยะสำหรับงานสำรวจ
1) การเลือกตามคุณสมบัติของวัสดุ
วัสดุเทป เหมาะสำหรับงาน ค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัว (α) ข้อดีหลัก ข้อจำกัดหลัก Invar งานควบคุมละเอียด, ตั้งระยะฐาน EDM, สอบเทียบ (Calibration), ตรวจรับโครงสร้างที่มีความคลาดต่ำ ≈ 1.2×10−6 / °C เสถียรสูงมาก แทบไม่ต้องแก้อุณหภูมิ ราคาสูง หนัก ต้องดูแลเป็นพิเศษ เหล็ก/สตีล (Steel) งานสำรวจทั่วไป งานวางผัง งานก่อสร้าง งานวิศวกรรม ≈ 11.6×10−6 / °C ทนทาน แม่นยำกว่าไฟเบอร์ ใช้งานกับแรงดึงมาตรฐานได้ ต้องแก้ไขผลจากอุณหภูมิ แรงดึง และการหย่อน (Sag) ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) งานชั่วคราว งานก่อสร้างทั่วไป งานภูมิประเทศเบื้องต้น งานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง สูงกว่าเหล็กมาก (ไม่คงที่) ไม่เป็นสนิม ทนความชื้น น้ำหนักเบา ราคาประหยัด ยืดตัวสูง ความแม่นยำต่ำ ไม่เหมาะสำหรับงานควบคุม 2) การพิจารณาชั้นความแม่นยำ (Accuracy Class)
3) การเลือกความยาวเทปตามลักษณะงาน
ความยาวเทป เหมาะสำหรับงาน หลักการพิจารณา 20–30 เมตร งานอาคาร วางแนวระยะสั้น งานภายในอาคาร คล่องตัว ลดความคลาดจากการหย่อน 50 เมตร งานถนนระยะสั้น–กลาง วางผังบริเวณ งานวางท่อ สมดุลระหว่างความยาวกับการคุมความตึงและการหย่อน 100 เมตร งานแนวเส้นยาว สำรวจภูมิประเทศเบื้องต้น ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น การแบ่งวัดเป็นช่วงสั้นมักแม่นยำกว่า 4) ข้อแนะนำในการเลือกเทปตามประเภทงาน
ประเภทงาน วัสดุ/คลาสแนะนำ ความยาวแนะนำ เหตุผลในการเลือก ตั้งระยะฐาน EDM / งานควบคุมละเอียด Invar, Class I 30–50 เมตร (แบ่งช่วง) ขยายตัวต่ำ แม่นยำสูง ควบคุมแรงดึงและอุณหภูมิได้ งานก่อสร้างทั่วไป (อาคาร/ถนนสั้น) Steel, Class II 30–50 เมตร สมดุลความแม่นยำกับความทนทาน ใช้งานคล่อง งานชลประทาน/ภูมิประเทศระยะกลาง Steel, Class II 50–100 เมตร ต้องแม่นในระดับเซนติเมตร และทนการใช้งานกลางแจ้ง งานประเมินพื้นที่คร่าว ๆ / งานในสภาวะเปียก Fiberglass, Class II–III 50–100 เมตร น้ำหนักเบา กันสนิม ราคาประหยัด เหมาะกับงานที่ไม่เน้นความละเอียดสูง 5) การควบคุมคุณภาพ (QC) และการใช้งานภาคสนาม
เช็กลิสต์ก่อนซื้อและก่อนใช้งาน
ทิปเพื่อความแม่นยำในการวัด
การบำรุงรักษา
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด
15 ต.ค. 2568
14 ต.ค. 2568
15 ต.ค. 2568