Mini Prism vs ปริซึมพร้อมฐาน: เลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับงาน?
การเลือกใช้ระหว่าง Mini Prism และ ปริซึมพร้อมฐาน (Full Size Prism) เป็นคำถามที่พบบ่อยสำหรับช่างสำรวจ เนื่องจากทั้งสองแบบมีคุณสมบัติและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การตัดสินใจที่ถูกต้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในงานภาคสนาม
Mini Prism (มินิปริซึม)
Mini Prism มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา จึงโดดเด่นในเรื่องความคล่องตัวและพกพาสะดวก มักใช้ร่วมกับโพลสั้น ๆ และมีค่า Offset (ระยะชดเชย) ส่วนใหญ่เป็น 0 มม. หรือ -17.5 มม.
- ข้อดี: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานในพื้นที่แคบ เช่น การวางผังบ้าน อาคาร หรือการตกแต่งภายใน สามารถเคลื่อนย้ายได้รวดเร็ว และเล็งได้ง่ายในระยะใกล้
- ข้อจำกัด: มีระยะยิงที่สั้นกว่า Prism ใหญ่ (ปกติประมาณ 150-300 เมตร) และค่าที่ได้อาจไม่นิ่งเมื่อใช้งานในระยะไกลหรือในสภาวะแสงแดดจ้า จึงไม่เหมาะกับงานสำรวจขนาดใหญ่ที่ต้องการระยะทางหลายร้อยเมตร
ปริซึมพร้อมฐาน (Full Size Prism)
ปริซึมพร้อมฐาน มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ (เช่น Ø62 มม. ขึ้นไป) และมีค่า Offset ส่วนใหญ่ที่ -30 มม. ถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและระยะทางไกล
- ข้อดี: สามารถยิงได้ไกลหลายร้อยเมตรไปจนถึง 2 กิโลเมตรหรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับกล้อง) เนื่องจากสะท้อนแสงได้ดีกว่า ทำให้เล็งได้ง่ายในระยะไกล และให้ค่าที่นิ่งและแม่นยำกว่าเมื่อตั้งบนโพลมาตรฐาน
- ข้อจำกัด: มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก จึงพกพาและติดตั้งได้ยากกว่า Mini Prism ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยในพื้นที่จำกัด
สรุปการเลือกใช้งาน
การตัดสินใจว่าจะใช้ Mini Prism หรือ Prism ใหญ่ ควรพิจารณาจากลักษณะงานเป็นหลัก
- เลือก Mini Prism เมื่อต้องการความคล่องตัวในงานขนาดเล็กหรืองานภายใน เช่น วางผังบ้าน, ตกแต่งภายใน, หรือในพื้นที่ที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย
- เลือก ปริซึมพร้อมฐาน เมื่อต้องการความแม่นยำสูงในระยะไกล เช่น งานสำรวจถนน, เขื่อน, สะพาน, หรือโครงการขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้าง
สำหรับผู้ที่ทำงานสำรวจหลากหลายรูปแบบ การมีปริซึมทั้งสองประเภทไว้ใช้งานตามหน้างานจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ยินดีให้คำปรึกษาแนะนำ กล้องระดับ กล้องวัดมุม กล้องประมวลผลรวม และบริการหลังการขาย : บริษัท พี นัมเบอร์วัน อินสตรูเม้นท์ จำกัด