การอ่านค่ากล้องระดับผิดเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

การอ่านค่ากล้องระดับผิด อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลลัพธ์อาจร้ายแรงถึงขั้นต้องรื้อสร้างใหม่ โดยเฉพาะในงานก่อสร้างที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น เทพื้น, วางแนวท่อ, งานถมดิน, หรือวางระดับโครงสร้าง

ผลกระทบจากการอ่านค่ากล้องระดับผิด
1. ระดับผิดทั้งระบบ ถ้าอ่านผิดจุดเดียว แต่เอาไปอ้างอิงต่อ → ทุกค่าหลังจากนั้น “ผิดตามไปหมด” ยิ่งใช้วิธี “เดินกล้อง” แบบต่อเนื่อง ยิ่งขยายความผิดพลาดเป็นลูกโซ่
ตัวอย่าง:
ระดับต้นแบบ (BM) จริงคือ 100.000 m
แต่คุณอ่าน BS = 1.150 แทนที่จะเป็น 1.050
→ ค่าระดับทั้งหมด ต่ำกว่าจริง 10 ซม.
→ พื้นที่ปูแล้วจะ เอียง, น้ำขัง, หรือ ผิดมาตรฐาน

2. เทคอนกรีตผิดระดับ
เทพื้นต่ำเกินไป → น้ำขัง
เทพื้นสูงเกินแบบ → เกินงบ, ต้องเจียรพื้น
พื้นห้องน้ำไม่ลาดไปหาท่อ → น้ำไม่ระบาย

3. ระดับท่อผิด → น้ำย้อนกลับ
ท่อระบายน้ำไม่ไหลเพราะ slope ผิด
น้ำย้อนขึ้นห้องน้ำ, ครัว หรือระบบบำบัดเสีย

4. ชิ้นส่วนโครงสร้างเสียหาย
ระดับฐานราก, คาน, เสา ผิดจากแบบ
อาจทำให้ รับน้ำหนักไม่ตรงจุด, ส่งผลต่อความปลอดภัย

5. งานต้องรื้อและเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ค่าแรงเพิ่ม, ค่าทุบ, ค่าแก้งาน
ส่งผลต่อระยะเวลาโครงการ
ทำให้ลูกค้าหรือหัวหน้างานขาดความมั่นใจ

✅ วิธีป้องกันการอ่านค่าผิด
ทวนค่าทุกครั้งก่อนเขียนลงสมุด
ให้ผู้ช่วยอ่านซ้ำ หรือถ่ายรูปสต๊าฟทุกครั้ง
ฝึกแยกแยะตำแหน่งหลักเมตร-เซนติเมตรชัดเจน
ใช้ไม้สต๊าฟแนวดิ่งเสมอ (มีฟองอากาศ)
หากไม่แน่ใจให้เล็งใหม่หรือขยับกล้องนิดเดียว
ทำตาราง Level Book ที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย

สรุป:
การอ่านค่ากล้องระดับผิดเพียงจุดเดียว อาจส่งผล ให้ทั้งระบบระดับผิดทั้งหมด และนำไปสู่การ เสียเงิน เสียเวลา และเสี่ยงความปลอดภัย ดังนั้น “แม่นยำดีกว่าทำเร็ว” คือหัวใจของงานกล้องระดับทุกประเภท